ห้างทอง ออโรร่า ดีไซน์ ต่อคิวเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 334 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชูจุดแข็งผู้นำธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายผ่านร้านสาขาและแพลตฟอร์มออนไลน์ ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่งแล้ว
วันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญที่จะออกและเสนอแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ AURA กล่าวว่า
หลังจาก บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอออกและเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 334 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25.04% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้นั้น ล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับ 1 แบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และ Filing แล้ว
นายอนิวรรต ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งได้แก่การขาย รับซื้อคืน ขายฝากสินค้า และบริการหลังการขาย ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมผู้บริหารอย่างยาวนาน
เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “ผู้นำในการส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า” นำเสนอของขวัญที่มีค่ามีคุณภาพและสร้างความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ AURORA, เซ่งเฮง, ทองมาเงินไป, ของขวัญ by AURORA และ AURORA Diamond โดยมีเป้าหมายพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำ Luxury Retail ในประเทศไทย
ปัจจุบันธุรกิจของบริษัทแบ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ และเครื่องประดับและของขวัญที่ทำมาจากทองคำ โดยมีผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์โมเดิร์น โกลด์ (“Modern Gold”) เป็นทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% อาทิ สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ 2) ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ โกลด์ (“Design Gold”) เป็นผลิตภัณฑ์จากทองอื่น ๆ (ไม่รวมผลิตภัณฑ์ Modern Gold ที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5%) โดยมีสินค้าทั้งหมด 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.พระเครื่องเลี่ยมทอง 2.สินค้าเสริมสิริมงคล 3.เครื่องประดับ และ 4.สินค้ากลุ่มของขวัญ และ 3) ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชร (“Diamond”) เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชรแท้ เช่น แหวนเพชร สร้อยคอเพชร เป็นต้น
2.ธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ และเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ (“ธุรกิจขายฝาก”) โดยลูกค้าสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่นำมาขายฝากได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน
“บริษัทถือเป็นผู้นำค้าปลีกธุรกิจทองรูปพรรณและเครื่องประดับแบบครบวงจรเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้า ทำให้แบรนด์ AURORA และแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอเป็นที่ยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ พร้อมมีช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม ทั้งผ่านหน้าร้านสาขา (Offline) ในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งสาขาในแหล่งชุมชนทั่วประเทศ
โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีจำนวนสาขารวม 265 แห่ง และช่องทางการจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย มาร์เก็ตเพลส อาทิ Lazada Shopee เป็นต้น ช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกเพศและทุกวัย”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ 6 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1) นำเสนอสินค้าและบริการที่มีความหลากหลาย โดยนำ Big Data มาใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ใหม่ รวมทั้งขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทองคำ
2) มุ่งขยายธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ เครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบภายใต้แบรนด์ “ทองมาเงินไป” บนทำเลที่มีศักยภาพในแหล่งชุมชน
3) สร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจำหน่าย ด้วยกลยุทธ์ O2O (Online to Offline) มุ่งเน้นขยายสาขา (Offline) บนทำเลที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ ควบคู่กับการขยายช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online)
4) สร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและพันธมิตร โดยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์ ตลอดจนสถาบันอัญมณีศาสตร์ชั้นนำของโลก โดยบริษัทได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลกในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า เช่น การนำเสนอเครื่องประดับเพชรคุณภาพที่ได้รับการรับรองจากสถาบันอัญมณีศาสตร์ชั้นนำของโลก มีใบรับรอง De Beers Code of Origin โดย De Beers Institute of Diamond ประเทศอังกฤษ และ Sarine จากประเทศอิสราเอล ตอกย้ำความน่าเชื่อถือในแบรนด์สินค้าและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
5) นำเทคโนโลยีสร้างสรรค์สินค้าและบริการ ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่เพื่อส่งเสริมการซื้อสินค้าและบริการหลังการขาย สร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ (Customer Loyalty)
6) ดำเนินกลยุทธ์สร้างแบรนด์ที่แตกต่างและมีความแข็งแกร่งด้วยการเป็นแบรนด์ของขวัญล้ำค่า เพื่อส่งมอบความสุขในโอกาสพิเศษต่าง ๆ มากกว่าเป็นร้านขายทองคำ